จะไปเรียนอังกฤษตั้ง 1 ปี เตรียมตัวไม่ถูกว่าจะเรียนรอดมั๊ย แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ยังงัย วันนี้อยากมารีวิวให้เพื่อนๆหรือน้องๆที่กำลังจะเดินทางได้ฟังกันแบบคร่าวๆ แต่แน่นไปด้วยการเตรียมตัวขั้นพื้นฐานก่อนไปเรียนจริงๆ

แนะนำตัวกันก่อน เบลล์ได้เลือกไปเรียนต่อปริญญาโททางด้าน Advanced Marketing Management ที่ Lancaster University ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2016-2017 ที่ผ่านมา ข้อมูลบางอย่างอาจจะอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยนี้ด้วยเป็นหลัก แต่เรื่องการใช้ชีวิตต่างๆ ก็น่าจะคล้ายๆกันทั้งหมดและนำไปปรับใช้ได้

การแชร์ข้อมูลครั้งนี้อาจจะจะเป็นรูปแบบ Presentation ไปซักหน่อย เพราะเคยนำไปพูดที่งาน Hands On Education และส่วนตัวคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อใครหลายๆคนที่กำลังจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ เลยทำสรุปเป็น 3 เรื่องหลักๆด้วยกัน ซึ่งก็คือการใช้ชีวิต การเรียน และการเดินทางต่างๆในประเทศอังกฤษ

เริ่มกันด้วยเรื่องของการอยู่ที่หอพักกันก่อน ที่ Lancaster เราเลือกอยู่หอใน (ส่วนตัวก็แนะนำให้อยู่หอในนะ) ไม่ต้องรีบตื่น เพราะจากหอเดินไปเรียนไม่ถึง 10 นาที เวลามีงานกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็ชอบนัดกันที่มหาลัย อยากโฟกัสการอ่านหนังสือ ห้องสมุดเงียบๆก็อยู่ที่นี่ หอในของ Lancaster จะมีแบ่งเป็นหลายๆบ้าน แต่สำหรับนักเรียนปริญญาโท จะอยู่รวมกันเลยที่ Graduate College ที่เดียวเท่านั้น บรรยากาศคือเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก ประเภทของห้องมีหลายแบบทั้งแบบ Studio ที่มีห้องครัวอยู่ในตัวและอยู่แบบคนเดียว หรือห้อง Superior Ensuite/Ensuite ที่มีห้องนอน ห้องน้ำส่วนตัว แต่ต้องแบ่งครัวกับเพื่อนนานาชาติอีก 6-8 คน

Roommate มาจากทั้งอิตาลี กรีซ และจีน ทำสุกี้เตรียมอาหารกันได้บันเทิงมาก

มาเจาะลึกในเรื่องห้องนอนซักหน่อย ห้องนี้คือห้อง Superior Ensuite ที่มีการใช้ครัวร่วมกัน (ไม่เลือกห้อง Studio เพราะเวลาทำกับข้าวอาจจะมีกลิ่น แต่จะเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบอยู่คนเดียวเป็นหลัก) ห้องนอนขนาดไม่ใหญ่มาก เปิดประตูเข้ามาจะเจอทั้งห้องน้ำ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะอ่านหนังสือ

Tips ที่อยากจะบอกคือ
1. เครื่องเขียนที่นั่นราคาแพงอยู่ เตรียมไปเองบ้างบางส่วนก็จะดีมาก อาจจะพกแฟ้มใสไปซัก 2-3 อันกับปากกาดินสอ 4-5 แท่ง จะได้ไม่ต้องบอกตัวเองว่า “รู้งี้” เอามาจากไทยดีกว่า

2. Slipper คู่เบาๆจากที่ไทย เอามาใช้เดินในห้อง และช่วยให้อุ่นในช่วงหน้าหนาวด้วย มาซื้อที่นี่ 4-5 ปอนด์อย่างต่ำ อันเบาๆแบกได้แบกมาจ้า

3. เรื่องหมอน ปลอกหมอนและผ้าปู อันนี้แล้วแต่คนนะ แต่อยากแนะนำว่าตอนเราไปคือเอาหมอนสูญญากาศของ Synda พร้อมกับปลอกหมอนและผ้าปูที่ซักมาหอมๆแล้วไปด้วย รวมไปถึงผ้าห่มผืนบางๆนิ่มๆเผื่อไว้ ถ้าไปถึงแล้วเข้าเมืองไปซื้อของไม่ทัน อย่างน้อยมีที่นอนสะอาดๆกับหมอนนิ่มๆในนอนก็อุ่นใจแล้ว

4. ปัญหาโลกแตกก่อนไปที่จำได้แม่นคือเรื่อง Laptop ลังเลอยู่นานว่าจะเลือก Mac หรือ Window ไปใช้ดี เราตัดสินใจซื้อ Mac ไปเพราะอยากได้เรื่องน้ำหนักเบาและแบตเตอรีที่อึด อยู่ได้ทั้งวัน จากประสบการณ์คือ เวลาเรียนเค้าไม่มานั่งแจกเลคเชอร์กันแล้ว คือดูสไลด์ผ่าน laptop อย่างเดียว แล้วการที่ต้องแบก Laptop ไปเรียนทุกวัน สำหรับเรา Mac คือตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ยังงัยก็แล้วแต่ ราคาก็ไม่ใช่เบาๆ อยากให้ลองดูการใช้งานของแต่ละคน และเลือกตามแบบที่ตัวเองสบายใจกันดีกว่า รุ่นใหม่ๆของ Window เดี๋ยวนี้ดีๆก็มีเยอะแยะไป อย่าลืมลองใช้ก่อนไปใช้งานจริงจะได้ไม่งง นี่ซื้อ Mac ก่อนไปอาทิตย์เดียว งงเป็นไก่ตาแตกเลยจ้า

มาต่อกันที่ห้องครัว เลือกแบบครัวรวมมันก็จะดูใหญ่ๆหน่อย เราได้ห้องที่แชร์กับรูมเมทรวมกันเป็น 6 คน ในห้องคร้วจะมีตู้เย็น 4 ตู้ เตาไฟฟ้า 4 เตา เตาอบและไมโครเวฟอีกอย่างละเครื่อง

Tips สำหรับส่วนนี้คือ

  1. เตรียมกล่องใส่อาหารที่เข้าไมโครเวฟได้พร้อมกับช้อนส้อมและมีดขนาดเล็กไปซักชุดสองชุด แก้วน้ำหรือกระบอกน้ำเอาไปด้วยก็ได้ เผื่อไปถึงแล้วหิว จะได้มีอุปกรณ์ต่างๆไว้พร้อมกินได้เลย
  2. สำหรับเรื่องซอสปรุงรส ทุกเมืองจะมีร้านจีนแน่นอนไม่ต้องห่วง แนะนำว่าไม่ต้องแบกไปให้หนักหรือเปลืองพื้นที่ ไปซื้อเอาที่นู่นได้ แพงหน่อยแต่เชื่อว่าซีอิ๊วขาวน้ำมันหอย อยู่ 1 ปีได้ซื้อขวดใหญ่มาใช้จนหมดแน่นอน
  3. เรื่องมาม่า ถ้าใครติดจริงๆจะพกไปก็ได้ แต่อยากแนะนำว่าไม่ต้องเอามาเยอะ มาทำอาหารที่นี่เอาสนุกๆเป็นวิชาติดตัวไปดีกว่า ที่นี่มี Prepared Meal ที่เป็นของสดปรุงมาให้แล้วอยู่เยอะมากเหมือนกัน โยนใส่เตาอบ 20-40 นาทีก็ทานได้เลย และไม่ต้องกลัวนะจ๊ะว่าจำทำไม่เป็น มีขั้นตอนบอกด้านหลังทุกกล่อง เตาอบก็ใช้งานง่ายมากๆ

เอาล่ะ ชีวิตปีนึงของเราจะขาดเรื่องการช้อปปิ้งไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้า เริ่มแนะนำเลยดีกว่า

  1. Food แต่ละเมืองจะหนีไม่พ้น M&S Sainsbury’s และ Tesco อย่างแน่นอน ยังไม่นับรวมแบรนด์อื่นๆอีกที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่แพ้บ้านเรา เราสามารถไปเดินเลือกซื้อของด้วยตัวเองก็ได้ แต่อยากแนะนำวิธีการสั่งออนไลน์ให้มาส่งหน้าหอมากๆ ขอยกตัวอย่างที่ใช้ประจำคือ Sainsbury’s เข้าไปสมัครและสั่งของครั้งแรกก็จะมีส่วนลดให้ เราเข้าไปเลือกของ เลือกรอบการส่งได้เลย พอใกล้ๆวันจะมีคนโทรมาหาเราเองว่าเค้าถึงแล้วนะ ข้อดีของการสั่งออนไลน์คือ เค้าจะชอบส่งคูปองส่วนลดในการสั่งอาหารมาให้ในอีเมล ยกตัวอย่างสั่งครบ 40 ปอนด์ได้ลด 15 ปอนด์ สั่งคนเดียวอาจจะไม่ถึง แต่ลองรวมทีมกับเพื่อนซักคน ได้ส่วนลดแน่นอน
  2. เสื้อผ้า นอกจากพวก Topshop H&M หรือ Zara แล้ว แบรนด์ที่ดังและราคาเป็นกันเองกับนักเรียนอย่างเรามากๆเลยก็คือ ASOS ไม่เคยสั่งกับเค้าเลยคือเชยมากนะจ๊ะ ที่นี่แบรนด์ไหนๆสามารถคลิกสั่งออนไลน์มาส่งได้ที่หอ เอามาลองได้เลย ถ้าไม่ชอบก็ส่งคืนกลับไปด้วยถุงที่เค้าส่งมานั่นล่ะ ชื่นชมอย่างนึงเลยคือ ถุงเค้าจะมีแถบกาวให้เราสามารถส่งกลับไปได้โดยไม่ต้องใช้ถุงใหม่หรือใส่กล่องให้มันวุ่นวาย ใบเดิมเนี่ยล่ะเอาอยู่ รู้สึกว่าช่วยลดโลกร้อนขึ้นมาทันที และยิ่งทำให้การช้อปปิ้งสนุกขึ้นไปอีก ส่วนถ้าใครมองหาแบรนด์จ๋าๆแล้วล่ะก็ อีกเว็บที่แนะนำคือ Selfridges
  3. แนะนำเพิ่มเติมสำหรับของจิปาถะบนโลกนี้ ให้เข้าไปหาได้ที่ Amazon ข้อดีของการเป็นนักเรียนก็คือเราสามารถสมัคร Amazon Prime ได้ฟรี 6 เดือน ซึ่งเราจะได้ของเร็วขึ้น บางทีก็ส่งฟรี แล้วก็ดูหนังแบบพรีเมียมได้ด้วย แนะนำว่าถ้ามี Roomate เป็นคนไทย แบ่งกันสมัครครึ่งปีแรกครึ่งปีหลังก็ได้ ส่วนเรื่อง Skincare ต่างๆ เข้าเว็บนี้เลย Escentual บางทีชอบมีโปรเด็ดมาให้สอย หรือถ้าจะหาซื้อ Gift Set ให้เพื่อน เว็บนี้ก็เริ่ด มีทั้งของผู้หญิงและผู้ชายจ้า

เล่ามาตั้งนานเพิ่งจะเข้าสู่เรื่องการเรียนกันเอง แต่ละมหาลัยอาจจะแตกต่างกันในเรื่องจำนวนนักเรียน แต่ที่เลือก Lancaster เพราะจำกัดนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 40 คน ทำให้สนิทกับครูและเพื่อนๆมาก ไม่เข้าใจก็ยกมือถามในห้องได้เลย

หลายๆคนคงเคยได้ยินเรื่องการเรียน Pre-Sessional ที่ Lancaster มีให้เลือกเรียนแบบ 2/4/10 Weeks แล้วแต่คะแนน IELTS ที่เราได้ สำหรับเราเองได้ offer มาแบบ unconditional offer แต่ตัดสินใจมาเรียนแบบ 4 Weeks เพราะอยากปรับตัวให้คุ้นเคย และฝึกการเขียน Writing ไปด้วย เพื่อนในห้อง 10 คน เป็นคนจีน 7 คน ที่เหลือคือ ไทย ญี่ปุ่นและคาซัคสถาน

หลังจากเรียน Session นี้จบแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ชีวิตจริงของการเรียนปริญญาโทในประเทศอังกฤษซักที การเรียนที่นี่จะมี 3 Term โดยที่ Term สุดท้ายจะเป็นการทำ Dissertation เลยเต็มๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเลือกเรียนที่ Lancaster เพราะจำนวนคนต่อห้องไม่เยอะมาก คละเชื้อชาติที่ค่อนข้างหลากหลาย อุปกรณ์และ Facility ทุกอย่างคือใหม่และทันสมัย สำเนียงของครูที่มาสอนเองฟังเข้าใจไม่ยาก อาจจะมีบ้างที่มาจากสกอตแลนด์แล้วให้อารมณ์เหมือนดู Game of Thrones เวอร์ชันวิชาการ 555

บอกทุกคนเสมอว่าไปแล้วอย่าเรียนอย่างเดียว ไปใช้ชีวิตด้วย มีกิจกรรมอะไรก็ไปร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ตัวอย่างในภาพเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ตอนคริสต์มาส อบอุ่นน่ารักเป็นกันเองมากๆ แนะนำนิดเดียวคือผู้ชายอย่าลืมเตรียมสูท ผู้หญิงอย่าลืมเตรียมเดรส (และรองเท้าส้นสูง) ไปด้วย ไปเรียนปีนึงจะไม่ไปปาร์ตี้กับเค้าเลยไม่ได้ ส่วนผู้ชายเองเอาสูทไปเผื่อพรีเซนต์งานได้อีกด้วย

มาถึงเรื่องสุดท้ายกันแล้ว การเดินทางในประเทศอังกฤษค่อนข้างจะง่ายมาก มี google map พร้อม Internet ทางที่บอกเป๊ะทุกอย่างไม่มีหลง ส่วนพาหนะการเดินทางขอแยกเป็น 4 อย่างหลักๆ

  1. รถไฟ (Train) ให้โลหดแอพ Trainline (เราใช้บ่อยสุด) National Rails และ Virgin Trains ไว้เลย 3 แอพนี้ เอาไว้จองตั๋งรถไฟนั่งไประหว่างเมือง แนะนำให้หลายอันไว้เปรียบเทียบราคาตอนจอง สำหรับนักเรียนอย่างไร ไปถึงแล้วห้ามลืม ย้ำเลยว่าห้ามลืม!! ซื้อตั๋ว 16-25 Railcard เพราะจะช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะมากๆ
  2. รถไฟใต้ดิน (Tube) ในปีนึง ต้องได้ไปลอนดอนอย่างแน่นอน โหลด London Tube Map เอาไว้ดูสถานีที่จะไปว่าทางไหนเร็วที่สุด และที่สำคัญ Tube ที่นี่ Strike บ่อยที่สุดในสามโลกกก จะมี SMS ส่งมาแจ้งเตือนผ่านแอพ เราจะได้เตรียมตัวเดินทางได้ถูกในวันนั้นด้วย นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถเมล์สีแดง (Bus) ก็สะดวกมากๆ สามารถดูจาก Google Map ได้เลยเพราะมันเป๊ะมากจริงๆ แต่ถ้าใครอยากดูเวลา real time ก็สามารถโหลด Bus Times มาใช้ดูได้
  3. รถโค้ช (Coach) อีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางที่ถูกกว่าคือรถโค้ชจาก National Express บางครั้งเดินทางข้ามเมืองได้ในราคาไม่ถึง 5 ปอนด์ถ้าจองล่วงหน้า ราคาถึงแม้จะถูกก็จริง แต่ถ้าเดินทางไกลๆ ใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ไม่แนะนำ เพราะที่นั่งไม่ได้สบายมาก
  4. สายการบิน (Airlines) เลือก Low-Cost Airlines มาให้ คือ Easy Jet, Ryan Air และ Eurowings นอกจากตั๋วที่มีราคาถูกแล้ว บินไปยุโรป ถูกกว่านั่งรถไฟไปลอนดอนซะอีกค่ะคุ๊ณ ว่างๆก็เข้าไปดูตั๋วได้ บินไปเยอรมัน 20 ปอนด์ ชิวๆเหมือนไปกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เลยจ่ะ

เอาล่ะ จบไว้เท่านี้ก่อน เขียนมายาวมาก หวังว่าคนที่จะไปเรียนต่อพอจะได้เตรียมตัวคร่าวๆได้ อยากถามส่วนไหนเพิ่มเติมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Lancaster University ที่หาข้อมูลยากเหลือเกิน สามารถ Inbox มาหาได้ที่ Facebook Journey Matter เลยนะจ๊ะ ตอบให้ได้ไม่หมด แต่จะช่วยหาคำตอบมาให้แน่นอน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *